คำนำ
หนังสือเกี่ยวกับการบริหารการพัฒนา (development
administration) นับวันจะมีให้เห็นน้อยลง ขณะที่หนังสือเกี่ยวกับการบริหารจัดการ (management administration) มีเพิ่มมากขึ้น ทั้ง ๆ ที่การบริหารการพัฒนาและการบริหารจัดการมีความหมายแตกต่างกันไม่มาก เหตุผลที่นิยมการบริหารจัดการกันอย่างกว้างขวาง ส่วนหนึ่งเป็นเพราะประเทศไทยได้ผ่านพ้นจากสภาพของการเป็นประเทศกำลังพัฒนาหรือประเทศด้อยพัฒนาแล้ว
อีกทั้งในยุคปัจจุบัน
ผู้นำรัฐบาล
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร ได้นำการจัดการของภาคเอกชนเข้ามาใช้ในการบริหารราชการอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
การบริหารจัดการ การบริหารการพัฒนา หรือแม้กระทั่งการบริหารการบริการ (service
administration)
แต่ละคำมีความหมายคล้ายคลึงหรือใกล้เคียงกัน
ที่เห็นได้อย่างชัดเจนมีอย่างน้อย
3 ส่วน คือ หนึ่ง
ล้วนเป็น แนวทางหรือวิธีการบริหารงานภาครัฐที่หน่วยงานของรัฐ และ/หรือ เจ้าหน้าที่ของรัฐ นำมาใช้ในการบริหารเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารราชการ สอง มีกระบวนการบริหารงานที่ประกอบด้วย 3 ขั้นตอนสำคัญ คือ
การวางแผน (planning) การดำเนินงาน
(acting) และการประเมินผล (evaluating)
และ สาม
มีจุดหมายปลายทาง คือ การพัฒนาประเทศไปในทิศทางที่ทำให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตดีขึ้นรวมทั้งประเทศชาติมีความเจริญก้าวหน้าและมั่นคงเพิ่มขึ้น
สำหรับส่วนที่แตกต่างกัน คือ แต่ละคำมีจุดเน้นต่างกันกล่าวคือ การบริหารจัดการเน้นเรื่องการนำแนวคิดการจัดการของภาคเอกชน เช่น การมุ่งหวังผลกำไร การแข่งขัน ความรวดเร็ว การตลาด การลดขั้นตอนและลดพิธีการ เข้ามาใช้การบริหารราชการ ในขณะที่การบริหารการพัฒนาให้ความสำคัญเรื่องการบริหารและการพัฒนานโยบาย แผน
แผนงาน โครงการ (policy, plan, program, project)
หรือกิจกรรมของหน่วยงานของรัฐ ส่วนการบริหารการบริการเน้นเรื่องการอำนวยความสะดวกและการให้บริการแก่ประชาชน เหล่านี้เป็นต้น
องค์กรตามรัฐธรรมนูญ (organs
under the constitution)
มีผู้ให้ความหมายไว้แตกต่างกันขึ้นอยู่กับเหตุผลหรือมุมมองของแต่ละคนที่จะยกขึ้นมาอ้าง
บางครั้งอาจใช้คำว่า องค์กรอิสระของรัฐตามรัฐธรรมนูญ
หรือ องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ
แต่ในที่นี้ ใช้ องค์กรตามรัฐธรรมนูญ โดยไม่มีคำว่า อิสระ อยู่ด้วย เหตุผลสำคัญที่ใช้คำนี้เพราะไม่มีหน่วยงานของรัฐใดที่เป็นอิสระโดยแท้จากรัฐ ฝ่ายบริหาร เช่น คณะรัฐมนตรี และสำนักงานงบประมาณ รวมทั้งฝ่ายนิติบัญญัติ เช่น รัฐสภา
และคณะกรรมาธิการของรัฐสภา
มีอำนาจพิจารณางบประมาณขององค์กรดังกล่าว วุฒิสภายังมีอำนาจถอดถอนอีกด้วย นอกจากนี้ ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
(พ.ศ. 2540)
ก็มิได้มีบทบัญญัติใดที่ใช้ข้อความว่า
องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ
คำว่า องค์กรตามรัฐธรรมนูญ
มีองค์ประกอบ 2 ประการ
ประการแรก เป็นองค์กรที่มีชื่อปรากฏอยู่ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
(พ.ศ. 2540) โดยมาตรา 266
ได้ใช้ถ้อยคำว่า องค์กรต่าง
ๆ ตามรัฐธรรมนูญ
และอีกประการหนึ่ง
รัฐธรรมนูญได้บัญญัติอำนาจหน้าที่ขององค์กรนั้นไว้ในรัฐธรรมนูญด้วย
เมื่อเป็นเช่นนี้ องค์กรตามรัฐธรรมนูญ จึงหมายถึง รัฐสภา สภาผู้แทนราษฎร วุฒิสภา คณะรัฐมนตรี ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลยุติธรรม ศาลปกครอง ศาลทหาร คณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
และคณะกรรมการตรวจเงินแผ่นดิน
ส่วนหน่วยงานของรัฐ (state
agencies) เป็นคำกลาง ๆ
ที่ใช้กับหน่วยงานภาครัฐทั้งในส่วนกลาง
ส่วนภูมิภาค
และส่วนท้องถิ่น
เป็นต้นว่า
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
จังหวัดแบบบูรณาการ (จังหวัดซีอีโอ)
และกรุงเทพมหานคร
ตามลำดับ
องค์กรตามรัฐธรรมนูญนั้นล้วนเป็นหน่วยงานของรัฐด้วย
การศึกษา เรื่อง การบริหารจัดการและการบริหารการพัฒนาขององค์กรตามรัฐธรรมนูญและหน่วยงานของรัฐ ครั้งนี้ ได้นำคำดังกล่าวข้างต้นมารวมกันและพิจารณาศึกษา ทั้งนี้ ไม่เพียงต้องการแสดงให้เห็นลักษณะสำคัญของการบริหารจัดการที่ใช้กันอย่างแพร่หลายเท่านั้น แต่ยังต้องการตอกย้ำแนวคิดและลักษณะสำคัญของการบริหารการพัฒนาให้ดำรงอยู่ต่อไปอย่างมั่นคง เพราะเรื่องการพัฒนานั้น เป็นกิจกรรมหรือกระบวนการต่อเนื่องที่ไม่สิ้นสุด เมื่อทำกิจกรรมหนึ่งเสร็จสิ้นไปแล้ว ก็จะมีกิจกรรมอื่นตามมาอีกเรื่อยไป ขณะเดียวกัน ก็เตรียมรับคำที่จะเกิดขึ้นต่อไปในอนาคต เช่น การบริหารการ
บริการ ในที่นี้ได้นำหน่วยงานของรัฐ
จำนวน 9 หน่วยงานมาเป็นกรณีศึกษา
คือ (1) องค์กรตามรัฐธรรมนูญ ได้แก่รัฐสภา คณะกรรมการการเลือกตั้ง ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ และศาลรัฐธรรมนูญ รวมตลอดทั้ง (2) หน่วยงานของรัฐในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค
และส่วนท้องถิ่น
ได้แก่ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
จังหวัดแบบบูรณาการ (จังหวัดซีอีโอ)
และกรุงเทพมหานคร
ตามลำดับ
การศึกษาครั้งนี้ใช้เวลาดำเนินงานประมาณ 2 เดือน จึงอาจมีข้อบกพร่องเกิดขึ้นได้ ผู้ศึกษาจะรวบรวมและนำไปแก้ไขปรับปรุงในโอกาสต่อไป สำหรับข้อดีถ้าเกิดมีขึ้น ผู้เขียนขอมอบให้แก่นักศึกษา โดยเฉพาะผู้ที่มีจิตใจและการกระทำที่คิดและทำนอกกรอบเพื่อส่วนรวมในทิศทางที่ดีหรือคาดว่าดีกว่าเดิม แม้จะได้รับแรงต่อต้านก็ควรมีจิตใจแน่วแน่มั่นคงไม่ท้อถอย ในเวลาเดียวกัน ผู้ศึกษาไม่ลืมที่จะมอบความดีนี้ให้แก่ นางสาววรรณวิรัช
วิรัชนิภาวรรณ ลูกสาว เพื่อเป็นขวัญและกำลังใจในความพยายามและมุ่งมั่นสอบชิงทุนเล่าเรียนหลวงได้ อันจะนำเกียรติยศและความภาคภูมิใจมาสู่ครอบครัว
และจะได้มีโอกาสนำความรู้ความสามารถมาตอบแทนบุญคุณประเทศชาติและให้บริการประชาชนต่อไป
วิรัช วิรัชนิภาวรรณ
สาขาวิชาวิทยาการจัดการ
มหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช
ถนนแจ้งวัฒนะ
อำเภอปากเกร็ด
จังหวัดนนทบุรี 11120
โทรศัพท์ 02-504-8181-4
เว็บไซต์ : www.wiruch.com
e-mail address : msaswwir@stou.ac.th
หรือ wiruch@wiruch.com
1 กุมภาพันธ์ 2548
สารบัญ
คำนำ
สารบัญ
สารบัญภาพ
สารบัญตาราง
บทที่
1
แนวคิดและความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการบริหารจัดการและการบริหารการพัฒนา
1. แนวคิด ความหมาย และความสำคัญ
1.1
แนวคิดและความหมายของการบริหารจัดการ
1.2
แนวคิดและความหมายของการบริหารการพัฒนา
1.3
ความสำคัญของการบริหารการพัฒนา
2.
แนวคิดเกี่ยวกับประชาชน
รัฐ
และเจ้าหน้าที่ของรัฐ
2.1
แนวคิดเกี่ยวกับประชาชน
2.2 แนวคิดเกี่ยวกับรัฐ
2.3
แนวคิดเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ของรัฐ
บทที่ 2 การบริหารการพัฒนาของไทย : โครงสร้าง
อำนาจหน้าที่ และกระบวนการดำเนินงาน
1.
การบริหารการพัฒนาของรัฐสภาและองค์กรตามรัฐธรรมนูญ
1.1 รัฐสภา
1.2
คณะกรรมการการเลือกตั้ง
1.3 ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา
1.4 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
1.5 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
1.6 ศาลรัฐธรรมนูญ
2. การบริหารการพัฒนาของหน่วยงานของรัฐในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาคและส่วนท้องถิ่น
2.1 หน่วยงานในส่วนกลาง :
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
2.2 หน่วยงานในส่วนภูมิภาค
: จังหวัดแบบบูรณาการ (จังหวัดซีอีโอ)
2.3
หน่วยงานในส่วนท้องถิ่น :
กรุงเทพมหานคร
บทที่
3
ปัญหาและแนวทางการพัฒนาของการบริหารการพัฒนาของไทย
1.
ปัญหาและแนวทางการพัฒนาของรัฐสภาและองค์กรตามรัฐธรรมนูญ
1.1 รัฐสภา
1.2
คณะกรรมการการเลือกตั้ง
1.3 ผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา
1.4 คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
1.5 คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ
1.6 ศาลรัฐธรรมนูญ
2. ปัญหาและแนวทางการพัฒนาของหน่วยงานของรัฐในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค
และส่วนท้องถิ่น
2.1
หน่วยงานของรัฐในส่วนกลาง
: สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
2.2
หน่วยงานของรัฐในส่วนภูมิภาค
: จังหวัดแบบบูรณาการ (จังหวัดซีอีโอ)
2.3
หน่วยงานของรัฐในส่วนท้องถิ่น
: กรุงเทพมหานคร
บทที่
4
แนวโน้มของการบริหารการพัฒนาของไทย
1.
ปัจจัยที่มีส่วนสำคัญต่อการกำหนดแนวโน้มของการบริหารการพัฒนา
1.1 รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
1.2 นโยบายของรัฐบาล
1.3 ภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรี
1.4 สถานการณ์บ้านเมือง
1.5 การเรียกร้องของประชาชน
1.6 อิทธิพลของกระแสโลก
1.7
การแข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้าน
ประเทศในภูมิภาค และโลก
2.
แนวโน้มการบริหารการพัฒนาของรัฐสภา องค์กรตามรัฐธรรมนูญหน่วยงานของรัฐในส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และส่วนท้องถิ่น
2.1 ด้านบุคลากร (Man)
2.2 ด้านการเงิน (Money)
2.3 ด้านวัสดุอุปกรณ์ (Material)
2.4
ด้านการบริหารงานทั่วไป
(Management)
2.5
ด้านการให้บริการประชาชน
(Market)
2.6 ด้านจริยธรรม (Morality)
บรรณานุกรม
|