แนวทางการเตรียมความพร้อมและ
แนวทางการเขียนโครงการหรือแผนงาน
สำหรับสมัครเรียนปริญญาโท
ในที่นี้ได้ยกร่างแนวทางการเตรียมความพร้อมและแนวทางการเขียนโครงการหรือแผนงานสำหรับสมัครเรียนปริญญาโทไว้จำนวน
4 เรื่อง เพื่อเป็นตัวอย่าง
ผู้สมัครเรียนอาจนำไปใช้เป็นพื้นฐานหรือเป็นแนวทางสำหรับเตรียมความพร้อมในการเรียนและเขียน
โดยควรปรับแต่ง
และเพิ่มเติมให้สมบูรณ์หรือเหมาะสมแล้วนำไปใช้ประกอบการสมัครเรียนปริญญาโท
ร่างแนวทางดังกล่าวมีดังนี้
1. เหตุผลสำคัญที่สมัครเรียน
2. หากได้รับคัดเลือกเข้าศึกษา
ท่านจะนำความรู้และประสบการณ์ใดมาใช้ประโยชน์ในขณะที่ศึกษา
3. หากได้รับคัดเลือกเข้าศึกษา
และต้องทำวิทยานิพนธ์หรือโครงการศึกษาวิจัย
ท่านสนใจจะเลือกประเด็นหรือหัวเรื่องใด และขอให้เขียนโครงการศึกษาวิจัยมาด้วย
4. หลังจากสำเร็จการศึกษาแล้ว
ท่านมีแนวทางในการนำความรู้ที่ได้รับจากการศึกษาไปใช้ประโยชน์อย่างไร
ให้ท่านเขียนแผนงานหรือโครงการที่จะจัดทำภายหลังสำเร็จการศึกษามาด้วย
1.
เหตุผลสำคัญที่สมัครเรียน
(กระผม,
ดิฉัน) ทำงานอยู่ที่
.. ในตำแหน่ง
.. (ถ้าตำแหน่งสูงควรระบุไว้ด้วย)
มีความประสงค์จะสมัครเรียนปริญญาโท ด้วยเหตุผลหลายประการ ประการแรก
เพื่อพัฒนาตนเองในด้านวิชาการ โดยเฉพาะการเพิ่มพูนความรู้ที่เกี่ยวกับแนวคิด
ทฤษฎี และหลักการของไทยและต่างประเทศ ตลอดจนการนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
ประการที่สอง เพื่อรับการอบรมปลูกฝังคุณธรรมและจิตสำนึกของการเป็นข้าราชการ (ประชาชน
หรือ นักธุรกิจ) ที่ดีจากครูอาจารย์ ให้ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต
เสียสละ และคำนึงถึงประโยชน์ของส่วนรวมด้วย ประการที่สาม
ความรู้ทางวิชาการที่เปิดสอนเป็นประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่การงานอย่างยิ่ง
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิชาการวิจัย
.. วิชาการวิเคราะห์
.. และวิชาการวางแผน
.. (ให้นำชื่อวิชาที่เกี่ยวข้องซึ่งระบุอยู่ในหลักสูตรปริญญาโทมาใส่ไว้
2-3 วิชา) วิชาดังกล่าวนี้ (กระผม, ดิฉัน) สนใจมากเป็นพิเศษ
เพราะจะช่วยให้วิเคราะห์
.. วางแผน
..และใช้ความรู้ทำวิจัย
..เพื่อปรับปรุงหรือพัฒนาหน่วยงานได้อย่างเป็นระบบและถูกต้องตามหลักวิชาการ
อันจะส่งผลให้ (กระผม, ดิฉัน)
เกิดความภาคภูมิใจที่ได้เข้ามาเป็นศิษย์ของครูอาจารย์ในมหาวิทยาลัยนี้
ประการที่สี่ ความรู้และคุณธรรมที่ได้รับจากการศึกษาในมหาวิทยาลัยนี้ นอกจาก (กระผม,
ดิฉัน) จะนำไปสร้างประโยชน์ให้แก่หน่วยงานและสังคมแล้ว
การได้รับคุณวุฒิที่สูงขึ้นยังจะสร้างความก้าวหน้าในอาชีพการงานให้ (กระผม,
ดิฉัน) อีกด้วย ประการที่สุดท้าย หน่วยงานและผู้บังคับบัญชา
รวมทั้งครอบครัวได้ให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่
และเมื่อนำมารวมกับความปรารถนาอย่างสูงของ (กระผม, ดิฉัน)
ที่ต้องการเข้าศึกษาปริญญาโท ด้วยความพร้อมดังกล่าว
ยิ่งทำให้โอกาสที่จะสำเร็จการศึกษามีสูงมาก ขอเพียงแต่ให้คณะ
..
ได้ให้โอกาสเท่านั้น จะไม่ทำให้ผิดหวังอย่างแน่นอน
2.
หากได้รับคัดเลือกเข้าศึกษา
ท่านจะนำความรู้และประสบการณ์ใดมาใช้ประโยชน์ในขณะที่ศึกษา
งานที่
(กระผม, ดิฉัน) ทำอยู่หรือเคยทำเกี่ยวข้องกับ (นโยบาย และ/หรือ การวางแผน
การบริหารทรัพยากรมนุษย์ การอำนวยการ การประสานงาน การประเมินผล การงบประมาณ
การให้อำนวยความสะดวกหรือให้บริการแก่บุคคลและหน่วยงานทั้งภายในและภายนอกหน่วยงาน)
(กระผม, ดิฉัน) มีประสบการณ์ดังกล่าวสั่งสมมานานพอสมควร
จนได้รับการยอมรับจากเพื่อนร่วมงานและผู้บังคับบัญชา (กระผม, ดิฉัน)
เคยได้รับรางวัล (ถ้ามี) นอกจากนี้ (กระผม, ดิฉัน)
ยังมีความสามารถพิเศษหรือมีความรู้พิเศษ (ถ้ามี เช่น คอมพิวเตอร์ การทำวิจัย
ให้ยกตัวอย่างว่าทำเรื่องอะไรและเมื่อไรด้วย)
ประสบการณ์ของ (กระผม, ดิฉัน) ที่กล่าวมานี้สอดคล้องอย่างมากกับวิชา
..
(ให้นำชื่อวิชาที่เกี่ยวข้องซึ่งระบุอยู่ในหลักสูตรปริญญาโทมาใส่ไว้ 2-3 วิชา)
ของคณะ (กระผม, ดิฉัน) จึงเชื่อมั่นว่าประสบการณ์ของ (กระผม, ดิฉัน)
ซึ่งถือว่าเป็นภาคปฏิบัติ
น่าจะมีโอกาสนำมาแลกเปลี่ยนหรือใช้ประโยชน์ในการศึกษาร่วมกับวิชาต่าง ๆ
ดังกล่าวของคณะซึ่งถือว่าเป็นภาคทฤษฎีอย่างมาก
และยังสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในทันทีขณะศึกษาปริญญาโทนี้ด้วย
นอกจากนี้
ประสบการณ์ในการติดต่อประสานงานกับบุคคลภายนอกหน่วยงานทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน
น่าจะเป็นประโยชน์ต่อการศึกษาปริญญาโท
โดยเฉพาะในกรณีที่ต้องประสานงานเพื่อศึกษาดูงานสัมมนาทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค
รวมทั้งการปฏิบัติงานเพื่อพัฒนาสังคมที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาด้วย
3.
หากได้รับคัดเลือกเข้าศึกษา และต้องทำวิทยานิพนธ์หรือโครงการศึกษาวิจัย
ท่านสนใจจะเลือกประเด็นหรือหัวเรื่องใด และขอให้เขียนโครงการศึกษาวิจัยมาด้วย
ประเด็นหรือหัวข้อใดไม่อาจระบุได้ง่าย
ขึ้นอยู่กับความสนใจของผู้สมัครแต่ละคน สิ่งสำคัญคือ
ประเด็นหรือหัวข้อเรื่องที่จะทำวิทยานิพนธ์หรือโครงการศึกษาวิจัยต้องเกี่ยวข้องกับวิชาเอกที่ผู้สมัครเลือกเรียน
และสอดคล้องกับวิชาที่มหาวิทยาลัยเปิดสอน อย่างไรก็ตาม
ขอเสนอหัวข้อไว้เป็นตัวอย่าง ดังนี้
1)
จิตสำนึกและพฤติกรรมของข้าราชการในการอำนวยความสะดวกและให้บริการสาธารณะแก่ประชาชน
กรณีศึกษา
.. (ใส่ชื่อหน่วยงานของผู้สมัคร
พื้นที่หรือสถานที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อทำวิจัย)
2)
การปรับเปลี่ยนและพัฒนาพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ของรัฐเพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการให้บริการประชาชน
กรณีศึกษา
.. (ใส่ชื่อหน่วยงานของผู้สมัคร
พื้นที่หรือสถานที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อทำวิจัย)
3) การควบคุมตรวจสอบหน่วยงานของรัฐ
.. (เช่น อบจ. เทศบาล อบต.
หรือหน่วยงานอื่นใด) ตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช
2540
4) ตัวชี้วัดประสิทธิภาพขององค์กรของรัฐที่เป็นอิสระตามรัฐธรรมนูญ
คือ
.. (เช่น ศาลรัฐธรรมนูญ ศาลปกครอง ปปช. กกต.
หรือผู้ตรวจการแผ่นดินของรัฐสภา)
ที่สอดคล้องกับเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญและการปฏิรูปการเมือง
5) การประเมินผลหรือขีดความสามารถในการบริหารงานของ
.. (ใส่ชื่อหน่วยงาน
เช่น
อบจ. เทศบาล อบต. หรือนโยบายสำคัญของรัฐบาล เช่น ผู้ว่าฯ ซีอีโอ
กองทุนหมู่บ้าน โครงการ 30 บาท บ้าน คอมพิวเตอร์ หรือประกันเอื้ออาทร) ใน
.. (ใส่พื้นที่หรือสถานที่จะเก็บรวบรวมข้อมูลเพื่อทำวิจัย)
6)
การพัฒนาขีดความสามารถในการบริหารจัดการของ..... (ใส่ชื่อหน่วยงาน)
7)
ความพร้อมในการบริหารจัดการตามแนวทางการบริหารราชการไทยในต่างประเทศแบบบูรณาการ
(ทูตซีอีโอ)
8)
แนวทางการพัฒนาขีดความสามารถในการบริหารจัดการขององค์การบริหารส่วนจังหวัด...
(ใส่ชื่อ อบจ.)
9)
ปัญหาและแนวทางการพัฒนาการบริหารจัดการขององค์การบริหารส่วนตำบลในจังหวัด.......
(ใส่ชื่อจังหวัด)
10)
ความคิดเห็นของประชาชนต่อการบริหารจัดการขององค์การบริหารส่วนตำบล......
(ใส่ชื่อ อบต.)
11)
ปัญหาและแนวทางแก้ไขการบริหารจัดการของ....... (ใส่ชื่อหน่วยงาน)
12)
ความพร้อมในการบริหารการพัฒนากระทรวง........ (ใส่ชื่อกระทรวง)
13)
ปัญหาและแนวทางการพัฒนาขีดความสามารถในการบริหารจัดการโครงการ 30
บาท รักษาทุกโรค
ของกระทรวงสาธารณสุขในจังหวัด........(ใส่ชื่อจังหวัด)
14)
ความพร้อมในการบริหารจัดการตามแนวทางการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีของ.......
(ใส่ชื่อหน่วยงาน)
15)
ปัญหาและการพัฒนาความพร้อมในการบริหารจัดการตามแนวทางการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดีของ...........(ใส่ชื่อหน่วยงาน)
ผู้สมัครอาจหาประเด็นหรือหัวข้อได้จากหัวข้อวิทยานิพนธ์ในอดีต
หนังสือ หรือบทความ โดยค้นหาได้จากเว็บไซต์ของสถาบันการศึกษาทั้งหลาย
ในส่วนของโครงการศึกษาวิจัย
(หรือโครงการศึกษาวิจัยที่คาดว่าจะเสนอเป็นวิทยานิพนธ์) ประกอบด้วยส่วนสำคัญ
ดังนี้
1) ชื่อเรื่อง (บางส่วนอาจนำมาจากข้างต้น หรือคิดขึ้นใหม่)
2) หลักการและเหตุผล (หรือ ความสำคัญของเรื่องที่ศึกษาวิจัย)
3) วัตถุประสงค์
4) วิธีการศึกษา (หรือ ระเบียบวิธีศึกษาวิจัย)
5) ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
สำหรับแนวทางการเขียนโครงการศึกษาวิจัยดังกล่าวนี้
อาจดูเพิ่มเติมได้จาก เทคนิคการเขียนงานวิจัยหรือวิทยานิพนธ์ ที่เว็บไซต์
www.wiruch.com
ในที่นี้ ได้นำโครงร่างการศึกษาวิจัย
(research proposal) จำนวน 9 ตัวอย่าง มาเสนอไว้เพื่อเป็นแนวทางให้ผู้สมัครยกร่างขึ้นใหม่เองตามความเหมาะสมแล้วแนบส่งไปพร้อมกับใบสมัคร
(ตัวอย่างข้างล่างนี้เป็นภาพ
PDF ซึ่งเปิดดูด้วยโปรแกรม Adobe Acrobat
หากต้องการตัวอย่างโครงร่างที่พิมพ์ด้วย Microsoft
Word อาจเขียนมาขอทางอีเมล์ได้)
1)
การวิเคราะห์คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญและตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
2)
การประเมินผลบทบาทของศาลรัฐธรรมนูญ
ศาลปกครอง
และศาลยุติธรรมในการปฏิรูปการเมืองของประเทศและการรักษาบูรณภาพของรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน
3)
บทบาทของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรตามรัฐธรรมนูญในการรักษาบูรณภาพของรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน
4)
การพิทักษ์ความศักดิ์สิทธิ์ของรัฐธรรมนูญโดยศาลรัฐธรรมนูญ
5)
ศาลปกครองไทย : วิเคราะห์เปรียบเทียบรูปแบบ
โครงสร้าง อำนาจหน้าที่ และการบริหารงานบุคคล กับศาลปกครองอังกฤษ
ฝรั่งเศส และเยอรมนี
6)
การปรับปรุงระบบบริหารราชการไทย
7)
การปกครองท้องถิ่นไทยและต่างประเทศ
8)
การบริหารงานของกรุงเทพมหานครในอนาคต
9)
การบริหารงานของหน่วยการปกครองท้องถิ่นรูปแบบเทศบาลและรูปแบบกรุงเทพมหานครในอนาคต
4.
หลังจากสำเร็จการศึกษาแล้ว
ท่านมีแนวทางในการนำความรู้ที่ได้รับจากการศึกษาไปใช้ประโยชน์อย่างไร
ให้ท่านเขียนแผนงานหรือโครงการที่จะจัดทำภายหลังสำเร็จการศึกษามาด้วย
เนื่องจาก (กระผม, ดิฉัน) สนใจวิชาเอก
..(ใส่ชื่อวิชาเอกที่เลือกเรียนหรือสนใจมากที่สุด)
และวิชา
.. (ใส่ชื่อวิชาที่เกี่ยวข้องซึ่งระบุอยู่ในหลักสูตรปริญญาโท 2-3 วิชา)
เป็นพิเศษ จึงย่อมได้รับความรู้ภาคทฤษฎี ภาคปฏิบัติ
และการประยุกต์ใช้จากคณาจารย์ รวมทั้งเกิดความมั่นใจในการปฏิบัติงานมากขึ้นด้วย
ภายหลังจากสำเร็จการศึกษา (กระผม, ดิฉัน)
จะนำประสบการณ์และวิชาความรู้จากวิชาดังกล่าว
โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวกับแนวคิดและทฤษฎี กระบวนการวิเคราะห์ การวางแผน
และการประเมินผลไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานเพื่อประโยชน์ของหน่วยงานและส่วนรวม
รวมทั้งจะนำไปใช้ชีวิตประจำวัน โดยจะเริ่มจากการถ่ายทอดไปยังครอบครัว
บุคคลใกล้ชิด
และถ้ามีโอกาสจะเผยแพร่ไปยังบุคคลอื่นต่อไปอีกในรูปของการพูดคุยเป็นส่วนตัว
เป็นกลุ่ม หรือการจัดทำเป็นแผนงานหรือโครงการต่าง ๆ เช่น โครงการฝึกอบรมบุคลากร
หรือโครงการพัฒนาจิตสำนึกของบุคลากรเพื่อประโยชน์ของส่วนรวม
ตัวอย่างแผนงานหรือโครงการที่จะจัดทำภายหลังสำเร็จการศึกษาแล้ว
(กระผม, ดิฉัน) จะนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากการศึกษาปริญญาโท
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง วิชาหลักหรือวิชาแกน อันได้แก่
.. (ใส่ชื่อวิชาที่เกี่ยวข้องซึ่งระบุอยู่ในหลักสูตรปริญญาโท
2-3 วิชา) รวมทั้งผลงานวิจัยของ (กระผม, ดิฉัน) ที่ได้ทำขณะศึกษา
ไปเป็นแนวทางในการจัดทำเป็น "โครงการประชุมสัมมนา เรื่อง
.."
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อถ่ายทอด เผยแพร่
และแลกเปลี่ยนความรู้กับผู้เข้าร่วมสัมมนา ซึ่งประกอบด้วย..
(เช่น
ผู้บังคับบัญชา ผู้ใต้บังคับบัญชา และพนักงานอื่นภายในหน่วยงาน
และภายนอกหน่วยงาน เช่น สื่อมวลชน ประชาชน และผู้สนใจทั่วไป)
โครงการนี้มีแนวโน้มที่จะได้รับทุนสนับสนุนจาก
..(ระบุชื่อหน่วยงาน)
ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ให้ทุนสนับสนุนเป็นประจำ ประมาณปีละ
..บาท
กิจกรรมในโครงการประชุมสัมมนานี้จะประกอบด้วย การจัดนิทรรศการ
และการบรรยายพิเศษโดยเชิญวิทยากรจากภายใน เช่น
.. (ระบุตำแหน่งหรือชื่อ)
และจากภายนอกหน่วยงาน เช่น อาจารย์จาก
.. (ระบุชื่อคณะและมหาวิทยาลัยที่สมัครสอบ)
พร้อมกันนั้น จะแจกเอกสาร แผ่นพับ ของที่ระลึก แข่งขันตอบปัญหาและมอบของรางวัล
และประเมินผลการทำงานทุกขั้นตอน ทั้งนี้
จะได้ประชาสัมพันธ์เพื่อชักชวนให้ผู้สนใจเข้าร่วมประชุมสัมมนาด้วย
และหลังจากการประชุมสัมมนาผ่านไปแล้วจะนำผลการประชุมสัมมนาจัดทำเป็นรูปเล่ม
และจัดส่งไปยังห้องสมุดสาธารณะเพื่อเผยแพร่ต่อไป
.
|