คำนำ
พระราชดำรัสของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ว่า
"ความเจริญหรือความเสื่อมของประเทศนั้นขึ้นอยู่กับการศึกษาของประชาชน
ถ้าประชาชนด้อยการศึกษา
จะเป็นอุปสรรคอย่างยิ่งต่อการพัฒนาประเทศในด้านต่าง
ๆ"
เป็นการแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของการศึกษาของประชาชนว่ามีความสำคัญอย่างมากต่อการพัฒนาประเทศในด้านต่าง
ๆ
เพราะการศึกษาเป็นพื้นฐานที่ทำให้ประชาชนมีคุณภาพ
เมื่อมีคนมีคุณภาพ
การพัฒนาประเทศ
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
การพัฒนาชนบทก็ย่อมเจริญก้าวหน้าด้วย
การพัฒนาให้ประชาชนมีคุณภาพนั้น
สถาบันการศึกษามีความสำคัญอย่างมาก
โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถาบันการศึกษาด้านการพัฒนาชุมชน
ย่อมมีบทบาทมากมายที่เกี่ยวข้องกับประชาชนในชนบทอันเป็นประชาชนส่วนใหญ่
และยังมีความสำคัญอย่างมากต่อความอยู่รอดของประเทศ
ดังที่พลเอกเปรม
ติณสูลานนท์
ได้กล่าวไว้ว่า "ชนบทไทยคือหัวใจของประเทศชาติ"
ขณะเดียวกัน
รัฐบาลปัจจุบันได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของประชาชนในชนบท
และได้ตระหนักถึงปัญหาต่าง
ๆ
ในชนบทซึ่งได้สั่งสมกันมานาน
จึงได้มีนโยบายสนับสนุนที่แน่นอนและต่อเนื่อง
เพื่อพัฒนาชนบทอย่างจริงจัง
หัวข้อ "หลักการพัฒนาชุมชน : บทบาทของสถาบันการศึกษากับการพัฒนาชนบท"
นี้
เป็นคำถามหรือวัตถุประสงค์ของหนังสือเล่มนี้ที่ต้องการจะได้รับคำตอบอย่างชัดเจน
ดังนั้น
เพื่อตอบสนองวัตถุประสงค์ดังกล่าว
จึงแบ่งเป็นบทต่าง ๆ 4
บทด้วยกัน
เริ่มตั้งแต่กำหนดขอบเขตของการศึกษา
อธิบายความหมายและแสดงถึงความสัมพันธ์ของคำต่าง
ๆ ไว้ในบทที่ 1
กล่าวถึงบทบาทของสถาบันการศึกษาด้านการพัฒนาชุมชนที่มีต่อการพัฒนาชนบทว่ามีบทบาทอะไรบ้างในบทที่
2
พร้อมกับเสนอแนวทางแก้ไขหรือข้อเสนอแนะในบทที่
4 อันเป็นบทสุดท้าย
นอกจากนี้ ในภาคผนวก ข
ยังได้มีการกล่าวถึงปรัชญาของการพัฒนาชุมชน
7 ประการ
ซึ่งเป็นหัวใจของการพัฒนาชุมชนไว้เสริมความรู้อีกด้วย
หนังสือเล่มนี้เขียนขึ้นเพื่อเป็นเอกสารประกอบการเรียนการสอนวิชา
"หลักการพัฒนาชุมชน" (414
260)
สำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัยขอนแก่นในคณะต่าง
ๆ
ทั้งสายสังคมศาสตร์และวิทยาศาสตร์
และอาจเป็นหนังสืออ่านประกอบสำหรับนักเรียน
นักศึกษา ครูอาจารย์
ตลอดจนบุคคลทั่วไปที่สนใจงานด้านพัฒนาชุมชนและการพัฒนาชนบท
เพื่อจะได้เป็นแนวทางในการศึกษา
การค้นคว้าวิจัย
และการปฏิบัติต่อไป
ผู้เขียนขอขอบพระคุณ
รองศาสตราจารย์เกรียงศักดิ์
เขียวยิ่ง
รองศาสตราจารย์วิไลวัจน์
กฤษณะภูติ
ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุวรรณ
บัวทวน
ผู้ช่วยศาสตราจารย์สุเทพ
เชาวลิต อาจารย์สมนึก
ปัญญาสิงห์
อาจารย์สุนิสิต สุขิตานนท์
และอาจารย์สุรนาท ขมะณรงค์
ที่ได้ช่วยให้คำแนะนำชี้แนะต่าง
ๆ
ทางด้านวิชาการอันเป็นประโยชน์ต่อการเขียน
ส่วนทางด้านกำลังใจนั้น
บุคคลที่มีส่วนช่วยอย่างมากและจะเป็นคนอื่นไปไม่ได้นอกจาก
นางนิภาวรรณ เตียงหงษากุล
แม่ของลูกชายผู้เขียนซึ่งให้กำลังใจ
สนับสนุนด้วยดีตลอดมา
ท้ายนี้
ผู้เขียนหวังเป็นอย่างยิ่งว่า
หนังสือเล่มนี้คงจะครอบคลุมและตอบคำถามได้มากเพียงพอกับความต้องการ
ผู้เขียนได้พยายามอย่างที่สุดเท่าที่เวลาและข้อมูลอำนวยเพื่อไม่ให้มีข้อบกพร่อง
แต่ถ้าเกิดมีขึ้นก็ถือว่าเป็นเรื่องเกินขีดความสามารถของผู้เขียน
และขอน้อมรับข้อบกพร่องไว้ทุกประการ
วิรัช วิรัชนิภาวรรณ (เตียงหงษากุล)
มหาวิทยาลัยขอนแก่น
2529
|